ผลการดำเนินการตาม AEC Blueprint
ภาพจาก : ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ
ธนาคารไทยพาณิชย์
v เขตการค้าเสรีของอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา
อาเซียนได้สรุปผลการเจรจา จัดทําเขตการค้าเสรีกับประเทศคู่เจรจาต่างๆ
โดยล่าสุดรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนได้ลงนามในความตกลง FTA อาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์
และพิธีสารเพื่อรับไทยเข้าเป็นภาคีในความตกลงการค้าสินค้า และความตกลงการค้าบริการ
ภายใต้กรอบ FTA อาเซียน-เกาหลี
ไปในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั ้งที่ 14 เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2552
สําหรับความตกลงด้านการลงทุนภายใต้กรอบอาเซียน-เกาหลี
ได้สรุปผลและลงนามไปแล้วเช่นกัน เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2552นอกจากนี้
ในการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ครั ้งที่ 41 ที่ประเทศไทยเป็ นเจ้าภาพจัดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม
2552 รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนยังได้ลงนามในความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน-อินเดีย
และความตกลงด้านการลงทุนอาเซียน-จีนไปแล้วด้วย
แนวทาง
- เร่งประชาสัมพันธ์ และสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับภาคการผลิต ผู้ประกอบการ และภาคเอกชนได้รับทราบและเข้ามาใช้ประโยชน์จากกรอบความตกลงต่างๆ เหล่านี้
- เสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน/เตรียมมาตรการรองรับผลกระทบสําหรับสาขาที่ไทยมีความอ่อนไหว
ประเทศค่เจรจาที่มีศักยภาพในอนาคต นอกจากประเทศคู่เจรจาดังกล่าวข้างต้นที่อาเซียนได้จัดทํา
FTA ด้วยแล้ว
ยังมีประเทศคู่เจรจาที่อาเซียนให้ความสนใจที่จะจัดทํา FTA ด้วยอีกหลายกลุ่ม
อาทิ MERCOSUR (ตลาดร่วมอเมริกาใต้ตอนล่าง มีสมาชิก 4 ประเทศ
คือ อาร์เจนตินา บราซิล ปารากวัย อุรุกวัย) และ GCC (คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ
มีสมาชิก 6 ประเทศ คือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดิอาระเบีย กาตาร์ คูเวต โอมาน
บาห์เรน) ซึ่งขณะนี้ อาเซียนอยู่ระหว่างการศึกษาและประเมินความเป็นไปได้และจะเสนอผลการศึกษาได้ประมาณเดือนพฤษภาคม
2553
แนวทาง
ในส่วนของไทย กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ได้มีโครงการจ้างศึกษาความเป็นไปได้ของการจัดทํา
FTA ในกรอบ ASEAN-MERCOSUR
และ ASEAN-GCC แล้วเช่นกัน ซึ่งเป็นโครงการที่ทําคู่ขนานไปกับการศึกษาในกรอบของอาเซียน
คาดว่า จะสรุปผลการศึกษาได้ในเดือนกรกฎาคม 2553 และมีนาคม 2553 ตามลําดับ
การขยาย FTA ของอาเซียนออกไปในกรอบภูมิภาคเอเชียตะวันออก ในอนาคตอันใกล้ยังมีความเป็
นไปได้ที่อาเซียนจะขยายการจัดทํา FTA ออกไปในกรอบที่กว้างขวางขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นในกรอบอาเซียน+3 (จีน ญี่ปุ่ น เกาหลีใต้) ที่เรียกว่า East
Asia Free Trade Area (EAFTA) หรือในกรอบอาเซียน +6 (จีน เกาหลีใต้
ญี่ปุ่ น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดีย) ที่เรียกว่า Comprehensive
Economic Partnership in East Asia (CEPEA)
ซึ่งขณะนี้ อาเซียนได้จัดตั้งคณะทํางานขึ้น 4 คณะ
(กฎว่าด้วยถิ่นกําเนิดสินค้า การจําแนกพิกัดศุลกากร พิธีการศุลกากร
ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ) เพื่อพิจารณาประเด็นในด้านเทคนิคแล้ว
แนวทาง
- ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ข้อคิดเห็นและท่าทีไทยประกอบการประชุมในระดับคณะทํางานทั้ง 4 คณะ 5
- กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศอยู่ระหว่างการจ้างศึกษาความเป็ นไปได้ของการจัดทํา FTA ในกรอบอาเซียน+3 และอาเซียน +6 เช่นกัน คาดว่า ในเดือนสิงหาคม 2553 น่าจะได้รับผลการศึกษาที่จะนํามาใช้ประกอบการพิจารณาและตัดสินใจได้
v การเคลื่อนย้ายสินค้าอย่างเสรี
ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 สมาชิกอาเซียนเดิม 6
ประเทศ (บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย)
ได้ลดภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศสมาชิกอาเซียน เป็น 0 % และ
CLMV ได้ลดภาษีสินค้ามาอยู่ที่ระดับ 0 – 5 % แล้ว
มีการทบทวนและปรับปรุงกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้าของอาเซียนให้ง่าย ขึ้น
เพื่ออำนวยความสะดวกการเคลื่อนย้ายสินค้าและสนับสนุนให้ภาคเอกชนใช้สิทธิประโยชน์จากเขตการค้าเสรีอาเซียนเพิ่มขึ้น
สมาชิกอาเซียน 5 ประเทศ (บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย)
ได้ยกเลิกมาตรการที่เป็นการกีดกันทางการค้าที่มิใช่ภาษีหมดแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1
มกราคม 2553 ส่วนฟิลิปปินส์จะยกเลิกภายใน 1 มกราคม
2555 และ CIMV ภายใน 1 มกราคม 2558ได้จัดทำ ASEAN
Trade Facilitation Framework ซึ่งเป็นกรอบการดำเนินงานด้านการอำนวยความสะถดวกทางการค้า
รวมถึงแผนงานเพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าที่มิใช่ภาษี ได้แก่
พิธีการศุลกากร กระบวนการทาบการค้า มาตรฐานและการรับรอง
มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช ASEAN Single Window และ ASEAN
Trade Repository เป็นต้น
v การเคลื่อนย้ายบริการอย่างเสรี
สรุปผลการเจรจาเปิดตลาดการค้าบริการไปแล้ว 5 รอบ
โดยจัดทำข้อผูกพันการเปิดตลาดการค้าบริการไป 7 ชุด
ครอบคลุมทั้งด้านการเปิดตลาด (Market Access)
และการให้การปฏิบัติเยี่ยงคนชาติ (National Treatment: NT)
โดยมีเป้าหมายการเปิดเสรีสาขาบริการสำคัญ 4 สาขา ได้แก่
ท่องเที่ยว ICT สุขภาพ
และสาขาการบิน ภายในปี 2553 (ค.ศ. 2010)
ส่วนสาขาโลจิสติกส์ ภายในปี 2556 (2013)
สำหรับสาขาบริการอื่น ๆ ได้กำหนดเป้าหมายไว้ภายในปี 2558 (ค.ศ.
2015)
ณ ปัจจุบัน
อยู่ระหว่างการจัดทำข้อผูกพัน ฯ ชุดที่ 8 โดยรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนได้ลงนามพิธีสารเพื่อ
อนุมัติข้อผูกพันชุดที่ 8 ภายใต้ ASEAN Framework
Agreement on Services (AFAS) ในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 17
และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2553 ณ ประเทศเวียดนาม
v การเคลื่อนย้ายการลงทุนอย่างเสรี
ได้ทบทวนกรอบความตกลงเขตการลงทุนอาเซียน
(Framework Agreement of the ASEAN
Investment Area : AIA)
และความตกลงว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน หรือ ASEAN IGA (ASEAN Agreement for the promotion and protection of Investment ) และได้ปรับปรุงผนวกความตกลงทั้งสอบฉบับเป็น “ความตกลงว่าด้วยการลงทุนเต็มรูปแบบของอาเซียน
(ASEAN Comprehensive Investment Agreement ACIA) “
มีสาระสำคัญ 4 ด้าน คือเปิดเสรี การส่งเสริม
การอำนวยความสะดวก และการคุ้มครองการลงทุน โดยครอบคลุมทั้งการลงทุนทางตรง (Foreign
Direct Investment FDI)
และการลงทุนในหลักทรัพย์ (Portfolio
Investment )
ณ ปัจจุบัน
สมาชิกอาเซียน 8 ประเทศ (ยกเว้นอินโดนีเซีย และไทย) ได้ให้สัตยาบันความตกลงด้านการลงทุนอาเซียน
(ASEAN Comprehensive Agreement on Investment : ACIA) แล้ว
ขณะนี้อินโดนีเซียอยู่ระหว่างการจัดทำรายการข้อสงวน (Reservation List)
และไทยอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อขอความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีเพื่อเสนอรัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบ
Reservation List และการให้สัตยาบัน
v การเคลื่อนย้ายเงินทุนอย่างเสรีมากขึ้น
ดำเนินงานตามแผนงานการรวมกลุ่มทางการเงินและการคลังของอาเซียน
มีสาระสำคัญ 3 ด้าน คือ
- การเปิดเสรีบริการทางการเงิน (Financial Liberalization) เจรจาทำข้อผูกพันการเปิดตลาดบริการทางการเงินไปแล้ว 5 รอบ
- การเปิดเสรีบัญชีทุน (Capital Account Liberalization) มีการผ่อนปรนข้อจำกัดในการเคลื่อนย้ายเงินทุน รวมถึงบัญชีเดินสะพัด และการลงทุนในหลักทรัพย์ตามความเหมาะสม
- การพัฒนาตลาดทุน (Capital Market Development) เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเชื่อมโยงตลาดทุนในอาเซียน
v การเคลื่อนย้ายแรงงานฝีมืออย่างเสรี มีการจัดทำ
และลงนามข้อตกลงว่าด้วยการยอมรับร่วมในคุณสมบัติวิชาชีพ สำหรับ 7สาขา ได้แก่ แพทย์
ทันตแพทย์ นักบัญชี วิศวกร พยาบาล สถาปนิก และนักสำรวจ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการให้มีผลใช้บังคับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น